#รีวิว​ เที่ยวเขื่อนรัชชประภา 2 วัน 1 คืน @The Laguna Chiewlarn

"เขื่อนรัชชประภา" หรือ "เขื่อนเชี่ยวหลาน" หรืออีกชื่อนึง "กุ้ยหลินเมืองไทย" ทั้งหมดนี้ก็คือที่เดียวกันนะ

🚌 การเดินทาง จากกทม. - สุราษฎร์ธานี เราเช่ารถจาก KF Car Rental (คุณอัฟฟาน ☎️088-3923823) โดยรับรถที่หน้า 7-11 ซ.รามคำแหง 53 เรามุ่งหน้าสู่สุราษฎร์ธานีตั้งแต่เวลาตี 1 จากกทม. ไปท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน​ ใช้เวลาไป 14 ชม. ครึ่ง (ปกติ 7 ชั่วโมงก็น่าจะถึง แต่เพราะจอดนอนระหว่างทางไปเกือบ 3 ชม. และแวะปั๊มบ่อยมาก อีกอย่างเป็นช่วงเทศกาลด้วยรถติดบางพื้นที่มันก็เลยนาน) โดยไปตาม google map เมื่อมาถึงได้จอดรถไว้ที่ท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน (ค่าจอดค้างคืน 80 บาท) และพบกับ พี่วิช (☎️ 098-490-3611) ผู้ซึ่งเราเคยใช้บริการเรือมาก่อนเมื่อ 2 -3 ปีที่แล้ว พี่ วิชเป็นผู้ติดต่อจองที่พักให้เราด้วย เราเรียกพี่วิชว่า "พี่ไผ่" เพราะเรียกตามชื่อ Facebook ของเขา ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเราถึงชอบเรียกชื่อคนอื่นเพี้ยนไปหมดเพราะด้วยความทรงจำของเรามันจำอะไรได้ก็เรียกแบบนั้น555+ พี่ไผ่มาถึงก็ช่วยถือของและพาไปจ่ายค่าใช้บริการท่าเรือ 10 บาท / ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท / ค่านำเรือเข้าอุทยาน 20 บาท ค่านำเรือเข้ากับค่าเรือมันคือคนละอย่างกันนะจ้ะ สำหรับเรือเป็นเรือหางยาวเช่าเหมาลำ ถ้าจะไปพักค้างคืน ต้องจ่ายค่าเรือ คืนละ 2,500 บาท คืนที่สองเพิ่ม 1,500 บาท แต่เราพักแค่คืนเดียวพอ เพราะเราเคยมาที่เขื่อนนี้แล้วและอีกอย่างคือเรามีจุดมุ่งหมายที่จะไปต่อ ทริปนี้เราแพลนไปหลายที่ และคิดว่าค้างที่ละคืนก็เพียงพอ

เรากะพี่ไผ่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแต่คุยกันบ่อยเพราะพี่เขาชอบทักหาใน Messenger ชวนมาเขื่อน ชวนเก่งมาก ชวนแทบทุกวันอยากให้เรากลับไปอีก ชอบส่งรูปสวยๆ ของเขื่อนมาให้ดูประจำจนเราอดใจไม่ไหวอยากไปอีก ก่อนที่จะมาเขื่อนเราถามพี่เขาว่าอยากได้อะไรเป็นของฝาก พี่เขาบอกว่า "หงษ์ทองสักแบนก็พอ" เราก็เลยซื้อที่ร้านค้าในท่าเรือให้ เพราะมันเป็นของฝากที่หาซื้อง่าย ที่ไหนก็มี และพี่เขาก็พาขึ้นเรือ ก่อนที่จะไปที่พักเราได้นั่งเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทยก่อน เขื่อนรัชชประภาได้รับฉายาว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทยเพราะมีความสวยงามของเทือกเขาหินปูนที่เหมือนกันกับกุ้ยหลินที่ประเทศจีน

🏡ที่พัก : The Laguna Chiewlarn (☎️082-0411438) ราคาต่อคืน - ค่าที่พัก 1,800 บาท/คน (คิดเป็นหัว) หรือถ้ามาคนเดียวจ่ายคืนละ 3,600 บาท ห้องอยู่ได้สูงสุด 3 คน (รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า) ที่พักดีมาก เห็นวิวภูเขา มีแอร์ อาหารเย็นของที่นี่ถือว่าเซ็ตใหญ่พอสมควร มีปลาทอดตัวใหญ่ ผัดผักรวมมิตร แกงส้ม (แบบใต้) แกงจืดฟักและไข่เจียว เราสามารถขอเติมได้ตลอด เราสังเกตอาหารในเขื่อนนี้ทุกที่พักจะทำคล้ายๆกันหมดเลย รสชาติเอาใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทานข้าวเสร็จก็มืดพอดีเราเลยไปอาบน้ำและมานั่งคุยกะพี่ไผ่ถามสารทุกข์สุขดิบ พี่เขาก็ดื่มหงษ์ทองที่เรานำมาฝาก เราถามว่า "เอาโซดาไหม กินเพรียวๆเลยหรอ" พี่เขาก็บอกว่า "พี่ชินแล้ว" แล้วเราจึงถามต่อว่า "พี่ไม่กินเหล้าแบรนด์อื่นหรอ" พี่เขาก็ตอบกลับว่า "ไม่อ่ะ พี่กินแต่อันนี้แหละ" ส่วนเราก็นั่งดื่มเบียร์ไปด้วยและก็คิดในใจว่า "ดีจังเลยเนอะที่ได้มาเจอคนง่ายๆเหมือนกัน กินอยู่ง่ายๆ ชีวิตไม่ต้องหรูแค่มีความสุขในสิ่งที่มีก็พอ" คุยกันได้สักพักเราก็รู้สึกง่วงจึงขอตัวไปนอน คืนนั้นเรานอนหลับสบายมากเพราะเหนื่อยกับการเดินทางหลายชั่วโมง พี่ไผ่นัดเจอเราตอน 6.30 แต่เราตื่นมาเกือบ 7.00 น. ก็เลยรีบออกไปหาพี่ไผ่ที่กำลังรออยู่บนเรือ คนอื่นๆเขาไปดูหมอกกลับมาแล้วส่วนเราเพิ่งจะไป พี่ไผ่พาขับเรือชมวิวนิดหน่อยแล้วก็กลับมาทานข้าวเช้า ทานข้าวเสร็จก็เตรียมตัวกลับ เรือพากลับ ตอน 9.00 น. นะ เผื่อบางคนเข้าใจผิดคิดว่าต้อง check out เที่ยง จากที่พักไปท่าเรือประมาณ 40 นาที

🙏จบทริป... เราเดินทางต่อไปที่ 💚เกาะพีพี จ.กระบี่ ทริปนี้ก็ถือว่ากระชั้นชิด มาถึงเขื่อนก็ค่ำแล้ว ฝนตกด้วยอดเห็นพระอาทิตย์ตก และตอนเช้ายังตื่นสายอีก แต่ก็ยังดีได้เห็นหมอกจากที่พัก กิจกรรมพายเรือคายัคที่อยากทำก็ไม่ได้ทำเพราะเวลามีจำกัด แต่ก็ดีใจมากที่ได้กลับมาที่เขื่อนนี้อีกครั้ง ได้มาเจอพี่ไผ่คนขับเรือผู้น่ารัก พี่ไผ่เป็นคนดีและซื่อสัตย์ คนแบบนี้สมควรที่จะติดต่อไว้ เวลามาเที่ยวที่นี่อีกจะได้เรียกใช้บริการ

💦บรรยากาศเขื่อนรัชชประภาเดือนเมษา : แดดแรง ฝนตกบ้าง ตอนเช้าเห็นหมอกสวยอยู่ แต่หน้าฝนจะสวยกว่านี้ เราไปคืนเดียว ไปถึงก็เย็นแล้ว มีเวลาเที่ยวน้อยมากแต่ก็ถือว่าเพียงพอ เพราะเขื่อนไม่มีอะไรทำเท่าไหร่ เหมาะกับการมาชิวมากกว่า

🩸คำแนะนำ🩸

1. อยากประหยัดให้มาหลายๆคนจะได้ช่วยกันหารค่าเรือ เรือลำนึงนั่งได้สูงสุดประมาณ 10 คน

2. แนะนำให้มาหน้าฝน ถ้าอยู่ที่พักเฉยๆ บรรยากาศจะชิวและฟินมาก มองเห็นหมอกปกคลุมภูเขา อากาศสดชื่น แต่ไม่ดีตรงตอนนั่งชมวิวบนเรือถ่ายรูป (เปียก)

3. เที่ยวเขื่อนเสร็จอย่าลืมแวะ จุดชมวิว ก่อนกลับ

4. แนะนำให้พักคืนเดียวถึงสองคืนก็เพียงพอ

5. น้ำเขื่อนลึกมาก ควรใส่ชูชีพเวลาว่ายน้ำ

6. ถ้าอยากพักที่ถูกๆแนะนำให้จองห้องพักที่เป็นในส่วนของอุทยาน เช่นแพรนางไพร เป็นแพรไม้ราคาหลักร้อย

7. ควรจองที่พักก่อนไปเพราะบนเขื่อนมีที่พักจำกัด

8. บนเขื่อนไม่มีร้านอาหาร

9. ไม่มีสัญญาณ Dtac